ในช่วงเวลาที่ความไม่แน่นอนและความรุนแรงกำลังเพิ่มขึ้นในเมียนมา กฎหมายบังคับเกณฑ์ทหารที่รัฐบาลทหารเพิ่งประกาศใช้ได้สร้างความเครียดและความหวาดกลัวให้กับประชาชนจำนวนมาก ทำให้พวกเขาต้องเลือกที่จะหนีออกจากประเทศเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง รายงานจากสำนักข่าวเอพีเผยว่า มีชาวเมียนมามากถึง 1,000 คนต่อวันที่พยายามข้ามเข้ามาในประเทศไทย เพื่อหลบหนีจากการถูกเกณฑ์ทหารซึ่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการหนีหรือเสี่ยงตาย
หลายคนที่ถูกสัมภาษณ์ รวมถึงครูวัย 25 ปีและนักแปลข่าววัย 32 ปี เล่าว่าพวกเขาเห็นการเกณฑ์ทหารเป็นเขาวงกตที่ไม่มีทางออก โดยหลายคนตัดสินใจหนีไปต่างประเทศเพื่อหวังจะหลบหนีจากความไม่แน่นอนและความรุนแรงที่พวกเขาอาจต้องเผชิญ นอกจากนี้ นักข่าววัย 26 ปีจากเมืองมัณฑะเลย์ยังได้เน้นย้ำถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายสำหรับนักข่าวในเมียนมา หลังจากรัฐประหารมีนักข่าวกว่า 150 คนถูกจับกุม
สถาบันยุทธศาสตร์และนโยบายเผยว่าการบังคับเกณฑ์ทหารจะนำไปสู่การอพยพของผู้คนครั้งใหญ่และการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมีรายงานว่าชายและหญิงที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 35 ปีสำหรับชาย และ 18 ถึง 27 ปีสำหรับหญิง จะต้องเข้ารับราชการทหารเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี หากผู้ใดหลบเลี่ยงจะมีโทษจำคุก
พล.ต.ซอ มิน ตุน โฆษกของรัฐบาลทหาร เปิดเผยว่ามีประชาชนที่มีสิทธิ์เกณฑ์ทหารประมาณ 14 ล้านคน สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและความท้าทายที่ร้ายแรงซึ่งชาวเมียนมาต้องเผชิญ การหนีหลบภัยของพวกเขาไม่เพียงแต่เป็นการแสวงหาความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นมนุษย์และความหวังในอนาคตที่ดีกว่าอีกด้วย